ทักษิณ เชิญชวน ชาวเชียงใหม่ ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นายก อบจ.

ทักษิณ เชิญชวน ชาวเชียงใหม่ ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นายก อบจ.

ทักษิณ อดีตนายกฯ ได้ออกมาเชิญชวนให้ชาวเชียงใหม่ ไปร่วมลงเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ. พร้อมขอใหเเลือก ก้อง เบอร์ 1 นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์คลิปผ่านเฟซบุ๊ก เชิญชวนชาวเชียงใหม่ ออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (นายก อบจ.เชียงใหม่) ในวันที่ 20 ธันวาคม ที่จะถึงนี้ และเลือก เบอร์ 1 หรือ นายพิชัย เลิศพงษ์อดิศร

โดยอดีตนายกฯ ได้กล่าวว่า

“สวัสดีครับ พี่น้องชาวเชียงใหม่ที่เคารพ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ก่อน ผมได้เขียนจดหมายถึงพี่น้องชาวเชียงใหม่ ซึ่งอาจจะไม่ได้รับข่าวสารอย่างทั่วถึง วันนี้เลยอัดคลิป เพื่อกล่าวกับพี่น้องชาวเชียงใหม่อีกครั้ง ผมมาอยู่ต่างประเทศนาน ก็คิดถึงเมืองไทย คิดถึงบ้านเกิดเชียงใหม่ เพราะว่าก็ไม่ได้ไปเยี่ยมนานแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงคนเชียงใหม่ อยากให้คนเชียงใหม่ได้สิ่งดีๆ เหมือนตอนที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรีตอนสมัยพรรคไทยรักไทย

วันนี้ก็เลยมาย้ำอีกครั้งว่า ผมฝากเบอร์ 1 นายก อบจ. พิชัย เลิศพงษ์อดิศร (หรือก้อง) ผมก็เชียร์แก แกแวะมาหาผมตอนที่ตัดสินใจลง ผมก็ฟังแนวคิดของเขา แกก็มีแนวคิดที่ดี และแกก็ฟังแนวคิดของผม ว่าจะพัฒนาเชียงใหม่กันอย่างไรบ้าง ผมก็ดีใจว่าเขาได้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทยได้ลงสมัคร นายก อบจ.เชียงใหม่

ผมในฐานะคนเชียงใหม่ เลยต้องเชียร์คนที่จะทำเพื่อบ้านเมืองเรา เชียร์คนที่จะตั้งใจทุ่มเท เพื่อพี่น้องชาวเชียงใหม่ และเชียร์คนที่รับฟังแนวคิดผมบ้าง เพราะว่าผมอยากจะเสนอความคิด เพื่อแก้ปัญหาบ้านเรา อันนี้ก็เป็นเรื่องที่ผมเป็นห่วง วันนี้ผมก็เลยฝากเชียร์กันหน่อย ในวันที่ 20 ธันวาคมนี้ ช่วยกันเลือก เอาให้ชนะขาดนะครับ ถ้าไม่เช่นนั้นเขาจะพูดได้ว่า คนเชียงใหม่ไม่รักผมแล้ว

อย่างไรผมก็มั่นใจว่า คนเชียงใหม่ยังไม่ลืมผม เพราะผมไม่เคยลืมคนเชียงใหม่ ไม่เคยลืมบ้านเกิดไม่เคยลืมประเทศไทยเลย ตลอดเวลา เวลาไปไหนเห็นความเจริญ ก็นึกถึงบ้านเราตลอดเวลาว่า ถ้ามีโอกาสจะแนะนำ รัฐบาลที่เป็นฝ่ายเรา คุยกันรู้เรื่อง เพื่อแก้ปัญหาประเทศเราอย่างไรบ้าง ทุกครั้งที่ฝั่งไทยรักไทยเก่า ซึ่งก็คือเพื่อไทย เป็นรัฐบาล ก็ปรากฎว่าเศรษฐกิจดี ไม่เสียหายเลย ไม่เหมือนทุกวันนี้ ก็เลยอยากจะฝากพี่น้องทุกท่าน คิดถึงเชียงใหม่ครับ ขอบคุณครับ”

หมอวรงค์ หัวหน้ากลุ่ม ไทยภักดี ประกาศยกเลิกการจัดกิจกรรม ชุมนุม 18 ธ.ค. เพื่อแสดงพลัง สนับสนุน ม.112 อย่างไรก็ตาม จะสนับสนุน ม. ดังกล่าวด้วยวิธีอื่นๆ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานยุทธศาสตร์กลุ่มไทยภักดี แถลงข่าวประกาศยกเลิกการการชุมนุมในวันที่ 18 ธ.ค. 63 ที่สวนลุมพินี เพื่อเป็นการแสดงพลังหนุน ม.112 โดยให้เหตุผลว่า ทางกลุ่มไทยภักดีรู้สึกกังวลถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในขณะนี้ ประกอบกับสถานการณ์ทางการเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม กลุ่มไทยภักดี จะยังคงสนับสนุนมาตรา 112 ด้วยการขอเชิญชวนประชาชนในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ พร้อมไปแจ้งความดำเนินตามมาตรา 112 ถ้าพบเห็นหลักฐานการกระทำที่เข้าข่ายความผิคมาตรา 112 ให้เก็บหลักฐาน และส่งมาที่อินบ็อกของเพจ “ไทยภักดี ประเทศไทย”

ทางกลุ่มจะมีทนายอาสารวบรวมหลักฐานและเขียนสำนวนเพื่อส่งกลับให้ประชาชนท่านนั้นไปแจ้งความดำเนินคดีที่สถานีตำรวจใกล้บ้าน

นอกจากนี้ ในวันที่ 17 ธ.ค. เวลา 10.00 น. กลุ่มไทยภักดี จะไปยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนทศและการสื่อสาร เพื่อเรียกร้องให้เร่งดำเนินการกับผู้ใช้โซเซียลมีเดียที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงประเทศ และเป็นภัยคุกคามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

เพนกวิน แถลง ไม่เกี่ยวข้องกลุ่ม เยาวชนปลดแอก

เพนกวิน ออกมาแถลงว่า ตนไม่ได้เกี่ยวเข้ากับกลุ่ม เยาวชนปลดแอก หลังจากที่เยาวชนปลดแอกถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ถึงการนำเสนอแนวคิดคอมมิวนิสท์ เพนกวิน หรือ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หนึ่งในแกนนำกลุ่มคณะราษฎร ได้ออกมาโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ว่าตนเป็นสมาชิกของสมาชิกของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม และ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” โดยข้อความระบุว่า

“พี่น้องผู้รักประชาธิปไตยทุกท่าน ผมขอชี้แจงกับทุกท่านว่าผมเป็นสมาชิกของแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ไม่ได้เป็นสมาชิกของกลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free Youth) และจุดยืนที่ปรากฏในเพจเยาวชนปลดแอกนั้น เป็นแนวทางของกลุ่มเยาวชนปลดแอกเอง ไม่ใช่แนวทางของผม ไม่ใช่ของแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ และที่สำคัญ ไม่ใช่มติของราษฎร ผมยังคงยึดมั่นในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ไม่มีศักดินาแทรกแซงครอบงำ เพื่อประชาธิปไตยที่ทุกคนมีสิทธิ เสรีภาพ และความเท่าเทียม และเพื่อประชาธิปไตยที่มีรัฐสวัสดิการโอบอุ้มชีวิตของทุกคน

การเสนออุดมการณ์ไม่ว่าจะแนวคิดใดมิใช่เรื่องผิดบาป ถือเป็นเสรีภาพของผู้เสนอ แต่ในเชิงการเคลื่อนไหวต่อสู้นั้น จะต้องประเมินให้ดีว่าแนวคิดที่จะเสนอนั้นสอดคล้องกับเจตจำนงของมวลชนหรือไม่ ในขณะที่เราตัดสินใจจะพังเพดานในเวทีธรรมศาสตร์ในวันที่ 10 สิงหาคมนั้น เราได้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์อย่างถี่ถ้วนแล้วว่าปัญหาของสถาบันกษัตริย์คือสิ่งที่อยู่ในใจของพี่น้องที่ร่วมต่อสู้ ดังจะเห็นว่านับแต่การชุมนุมครั้งแรก เราเห็นป้ายกล่าวถึงปัญหาของสถาบันกษัตริย์ปรากฎอยู่ทุกแห่งหนในการชุมนุม เราจึงลุกขึ้นพูดเพื่อประกาศเจตจำนงของมวลชน เพราะถึงที่สุด การต่อสู้จะสำเร็จได้มิใช่ด้วยเจตจำนงของคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่จะสำเร็จด้วยเจตจำนงร่วมของพี่น้องทุกท่าน

ในประเด็นเรื่องสามข้อหรือข้อเดียวนั้น เรายังยึดมั่นในข้อเสนอสามข้อซึ่งจะนำไปสู่การปฏิรูป แต่ตามธรรมชาติแล้ว การปฏิรูปจะเกิดขึ้นก็เมื่อชนชั้นนำยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชน หากชนชั้นนำไม่ยอมปรับตัวก็จะไม่เกิดการปฏิรูป 

แนะนำ : รีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้า | รีวิวอาหารญี่ปุ่น| รีวิวที่เที่ยว | ดาราเอวี